20 เม.ย. 2558

Amway


ในการทำธุรกิจเครือข่าย เราจำเป็นต้องเลือกบริษัทผู้ผลิตสินค้า ที่จะมาเป็น Partner ของเรา เพื่อที่จะสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ปัจจัยหลักๆในการเลือก Partner ทางธุรกิจแบ่งได้หลักๆ 3 ข้อ

1. ข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท ความมั่นคงของตัวบริษัท และการจัดตั้งขึ้นอย่างถูกกฎหมาย 

2. แผนการจ่ายค่าตอบแทนของบริษัท เพราะแผนการตลาดของบริษัท จะนำไปสู่รายได้ของธุรกิจ เราจำเป็นต้องรู้ว่า บริษัทจ่ายค่าการตลาดให้กับสมาชิก อย่างไร

3. สินค้าของบริษัท เราต้องรู้จักสินค้า และชอบสินค้าของบริษัท เพื่อให้ง่ายแก่การไปแนะนำต่อ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริโภค

รู้จักกับบริษัท Amway


  • บริษัท Amway ก่อตั้งขึ้น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2502 และขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2530
  • ในปี 2557 บริษัทมียอดจำนหน่ายสินค้าในประเทศไทย 16,250 ล้านบาท (อ้างอิงจาก https://www.amwayshopping.com/amwayshopping-frontend/shopping/contentPage?pageKey=amway.abo.news.detail.printpreview&nodId=498 )
  • บริษัทได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.
  • เข้าร่วมธุรกิจได้ด้วยการสมัครสมาชิก แบบนักธุรกิจ (ABO) 900 บาท และต่ออายุปีละ 450 บาท หรือสมัครเป็นสมาชิกแบบซื้อใช้สินค้า (M) ปีละ 100 บาท 
  • เมื่อเป็นสมาชิก จะสมารถซื้อสินค้าได้ ในราคาสมาชิก (แบบ M 15% แบบ ABO 25%)

แผนการตลาดของธุรกิจ Amway


Amway ใช้แผนการจ่ายค่าตอบแทนแบบ Stair Step - Break Away นั่นคือ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวน Downline ที่ติดตัว

Amway คำนวณค่าตอบแทนเป็นรายเดือน มีการตัดยอดแต่ละเดือน ทุกวันสิ้นเดือน และมีการจ่ายค่าตอบแทน ทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

Amway มีการคำนวณยอดธุรกิจเป็นแต้ม เรียกว่า PV โดย 1 PV = 2.87 บาท

รายได้จากธุรกิจ Amway พอจะแบ่งได้ดังนี้



ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.amwayshopping.com/mcs/ffe/business_plan_inside_10rule.html

สินค้าเด่นของบริษัท Amway

สินค้าเด่นๆของบริษัทพอจะแบ่งได้ดังนี้

1. กลุ่มของอาหารเสริม (Nurtilite) ก็จะมีเช่น Protein และ DoubleX 

2. กลุ่มของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Artistry) เป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ติด 1 ใน 5 แบรนด์ที่ขายดีที่สุดในโลก

3. กลุ่มของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและ Body Care เช่นน้ำาทำความสะอาดอเนกประสงค์ L.O.C. ผงซักฟอกคุณภาพสูง SA8 และยาสีฟัน Glister

4. กลุ่มของสินค้าซื้อเพียงครั้งเดียว คือ เครื่องกรองน้ำ eSpring เครื่องกรองอากาศ Atmosphere และชุดเครื่องครัว iCook

จุดเด่นของธุรกิจ Amway


  • ตัวบริษัทมีความน่าเชื่อถือสูง มีประวัติยาวนาน ตรวจสอบได้
  • สินค้ามีคุณภาพระดับ Premium ทุกคนรู้จักและยอมรับ ในคุณภาพของสินค้า
  • สินค้ามีหลายกลุ่ม สามารถเลือกทำตลาดได้
  • สามารถเพิ่มยอดธุรกิจได้อย่างรวดเร็วในระยะสั้น
  • สมาชิกมีความสะดวกสบาย เพราะสามารถซื้อสินค้าได้หลายทาง ทั้ง ทาง website ของ Amway https://www.amwayshopping.com/  และมีบริการส่งถึงบ้าน หรือ สั่งผ่าน 7-Eleven หรือ ไปซื้อ Shop ของ Amway ที่อยู่ใกล้บ้านท่าน

ข้อสรุปเมื่อเลือกลงทุนกับธุรกิจ Amway

ธุรกิจ Amway ลงทุนแค่เพียง 900 บาท สิ่งที่เราจะได้รับคือ

1. เป็นเจ้าของธุรกิจ

2. ซื้อสินค้าในราคาส่วนลด 25%

3. แนะนำสินค้า แนะนำธุรกิจได้ทั้งในและต่างประเทศ

4. ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 60% (โบนัส รายวัน รายเดือน รายปี)

5. ประกันอุบัติเหตุ รหัสละ 100,000 บาท

6. ได้ท่องเที่ยวฟรีทั้งในและต่างประเทศ

7. มีมรดกตกทอดสู่ลูกหลานตลาดไป (ยกให้ โอนให้ หรือขายก็ได้)

เพียงเราเปลี่ยนที่ซื้อสินค้าที่เราเคยซื้ออยู่ประจำ ที่ห้างร้านต่างๆ มาซื้อสินค้าของบริษัท Amway เราก็จะได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มราคา และได้ผลตอบแทน

"งาน คือ เครื่องมือในการ สร้างชีวิต แต่ คุณภาพชีวิต ขึ้นอยู่กับชนิดของงานที่ทำ ความสำเร็จในชีวิตมิใช่อยู่ที่ทำงานหนักเพียงอย่างเดียวแต่อยู่ที่คุณเลือกใช้เครื่องมือ อะไรต่างหาก เราจะ ใช้แรงทำ หรือ ใช้ระบบทำงาน"

ตัวอย่างคนดังที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจแอมเวย์




18 เม.ย. 2558

สวัสดีครับ ผมชื่อ พิทยา เตียวสกุล ประกอบอาชีพรับจ้างอิสระ เขียนโปรแกรม ออกแบบเว็บภายในองค์กร แก้ไขงานระบบ ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ทำให้รายได้ที่เคยมีเริ่มน้อยลง ผมจึงเริ่มมองหาธุรกิจที่สามารถทำเงินให้กับผมได้อย่างตลอดต่อเนื่องโดยที่ผมสามารถมีเวลาไปทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีเงินใช้หรือไม่ แล้วผมก็เจอ ถึงตรงนี้คุณๆคงอยากรู้แล้วว่าผมไปเจออะไรมา จะขออนุญาตแบ่งปันข้อมูลให้ทุกท่านรับรู้นะครับ

ที่ผมไปเจอมาคือธุรกิจเครื่อข่าย อ่านไม่ผิดหรอกครับ ธุรกิจที่ผมเชื่อว่าทุกท่านคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ท่านรู้หรือไม่ครับว่ามันสามารถทำรายได้ให้เราอย่างต่อเนื่อง สงสัยใช้ไหมครับว่าทำยังไง เพราะผมก็เคยสงสัยเหมือนทุกท่าน เมื่อก่อนผมคิดว่ามันคือ ธุรกิจขายตรง หรือ แชร์ลูกโซ่ แต่เพราะไม่รู้ เพราะไม่เข้าใจ เพราะฟังคนอื่นมา ผมถึงได้เชื่อแบบนั้น แต่พอมาได้ศึกษาอย่างจริงจัง ผมถึงรู้ว่ามันมีบ้างอย่างที่ผมยังไม่รู้ และเมื่อรู้แล้วก็ไม่อยากเก็บมันไว้คนเดียวอยากแบ่งปันให้ทุกท่านที่สนใจ อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนผม แล้วผมจะกลับมาเล่าให้ทุกฟังในครั้งต่อไปนะครับ



15 เม.ย. 2558

สวัสดีครับ ผมชื่อ พิทยา เตียวสกุล นะครับ วันนี้จะแบ่งปันเรื่องเงิน 4 ด้าน ผมเชื่อว่าคนบนโลกนี้ทำธุรกิจอยู่ในเงินทั้ง 4 ด้านนี้ทั้งนั้น

โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ผมอ่านมาจากหนังสือ พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือ โดยคุณโรเบิร์ต คิโยซากิ ได้แบ่งคนไว้เป็น 4 กลุ่มด้วยกันคือ
1 E-Employee ลูกจ้าง เช่นพนักงานขาย พนักงานโรงงาน ผมก็เคยอยู่ในคนกลุ่มนี้
2 S-Self-Employee การจ้างตัวเอง หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านขายอาหาร ผมก็เคยอยู่ในคนกลุ่มนี้
3 B-Business Owner เจ้าของธุรกิจ ธุรกิจอิสระประเภทเครือข่าย MLM ธุรกิจที่สามารถเดินไปได้เองด้วยตัวมันเอง เงินเริ่มต้นทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องเยอะ และผมกำลังทำอยู่ในกลุ่มนี้
4 I-Invester นักลงทุน หุ้น พัธบัตร หรือร่วมธุรกิจกับคนอื่น ที่ได้รับผลตอบแทน แต่ต้องมีเงินทุนเยอะมาก
ซึ่งสรุปได้ว่า ผู้ที่ร่ำรวยได้จริงๆและไม่เหนื่อย จะต้องอยู่ฝั่งขวา ในกลุ่ม B และ I ซึ่งจะเป็นผู้มีอิสระภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
“คนที่รวยที่สุดในโลกล้วนแสวงหาการสร้างเครือข่าย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหางานทำ